ทำไมเราต้องดื่มคลอโรฟิลล์ แล้วคลอโรฟิลล์ช่วยอะไรได้บ้าง
ทำไมเราต้องดื่มคลอโรฟิลล์
แล้วคลอโรฟิลล์ช่วยอะไรได้บ้าง
ทุกวันนี้มนุษย์เริ่มมีวิวัฒนาการในการดำรงชีวิตที่ทันสมัยมากขึ้น
จากอดีตต้องปลูกผัก ปลูกข้าว เลี้ยงสัตว์ไว้กินเอง แต่ปัจจุบันการดำรงชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ทำให้วิธีการปลูกผัก ปลูกผลไม้ และเลี้ยงสัตว์ เน้นไปเพื่อการค้าขายเป็นหลัก ประกอบกับผู้บริโภคส่วนใหญ่มักนิยมผัก
ผลไม้ที่สวยงาม จึงทำให้เกษตรกรจำเป็นจะต้องใช้สารเคมี เพื่อป้องกันแมลงไม่ให้มารบกวนพืชผลทางการเกษตร
การเลี้ยงสัตว์ก็เช่นกันจำเป็นจะต้องใช้สารเคมี
เพื่อป้องกันโรคต่างๆ ที่จะมาทำลายสัตว์เลี้ยง หรือการใส่สารเร่งโตในจำพวกสัตว์ตระกูลปีก
อาทิ ไก่ และเป็ด เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้นในสังคมที่เจริญแล้ว
ปัญหาใหญ่ที่ตามมาคือ มลพิษทั้งทางเสียง ทางกลิ่น และทางอากาศ
โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ ของประเทศ ทำให้มนุษย์เราต้องสูดดมกลิ่น และหายใจเอาอากาศที่ไม่บริสุทธิ์เข้าไปสะสมในร่างกาย
เมื่อไปรวมกับอาหารที่มีสารพิษสารเคมีที่บริโภคเข้าไปสะสมไว้ในร่างกาย ยิ่งนานวันเข้า
มนุษย์ก็เริ่มมีปัญหาจากโรคเสื่อมต่างๆ ตามมา
โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีอายุตั้งแต่
35 ปีขึ้นไปจะมีปัญหาเกี่ยวกับโรคเสื่อมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาทิ โรคมะเร็ง,
โรคหัวใจ, โรคความดัน, โรคเบาหวาน, โรคไต, โรคตับ, โรคเก๊าท์, โรคเลือด,
โรคเลือดจาง, โรคภูมิแพ้ และโรคปวดข้อกระดูก เป็นต้น
จากเดิมโรคเหล่านี้จะเป็นในกลุ่มผู้สูงอายุ แต่ปัจจุบันโรคเหล่านี้กลับเกิดกับกลุ่มคนที่อายุน้อยลงมา
นั่นแสดงให้เห็นว่า ปัญหาจากการบริโภค การอยู่อาศัย ส่งผลต่อมนุษย์มากขึ้น
คำถามที่เกิดขึ้น คือ เมื่อเราไม่สบายหรือเจ็บปวดจะต้องไปไหน
คำตอบคือ ไปโรงพยาบาล สิ่งแรกเมื่อมาถึงมือหมอ คือ การถามอาการของผู้ป่วย
สิ่งต่อมาคือ การเจาะเลือดของผู้ป่วยไปตรวจ เพื่อหาดูว่า เราเป็นอะไร
ผลของการตรวจเลือดหมอจะรู้ว่า เราป่วยเป็นโรคอะไร นั่นจึงเป็นข้อสรุปทั้งหมดว่า
ทำไมเราต้องดื่มคลอโรฟิลล์ การที่เราป่วย เพราะเลือดของเราป่วย
ระบบเลือดในร่างกายของเรา
เป็นเหมือนระบบสายไฟในบ้านเรา ถ้าหากเกิดไฟช็อตตรงจุดไหนเราจะต้องไปซ่อมตรงจุดนั้น
ถ้าสายไฟตรงไหนเก่าหรือชำรุด ก็จะทำให้กระแสไฟฟ้าไหลเวียนไม่สะดวก อาจจะมีไฟดูด
ไฟรั่วบ้าง หากไม่รีบทำการแก้ไขก็อาจจะทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรจนเกิดเหตุไฟไหม้บ้านได้
ในร่างกายของคนเราเช่นกัน ระบบเลือดถือว่าสำคัญที่สุด เพราะหากอวัยวะส่วนไหนไม่มีเลือดไปเลี้ยงแล้ว
ก็จะทำให้อวัยวะตรงส่วนนั้นอ่อนแรงได้ หากเลือดไม่สะอาดหรือมีสารพิษเข้าไปมาก
เลือดที่ถูกส่งไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายก็จะได้รับสารพิษเยอะ
คลอโรฟิลล์จะเข้าไปช่วยอะไรได้บ้าง
คลอโรฟิลล์
สกัดมาจากสารของต้นอัลฟัลฟ่า จัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่นิยมนำมาใส่สลัด
(มีกลิ่นคล้ายกับถั่วลันเตา) เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีไฟโตเอสโตรเจน
คุณสมบัติเด่นของคลอโรฟิลล์ คือ ช่วยเพิ่มออกซิเจน และล้างสารพิษ (ดีท็อกซ์) ในเลือดทั้งระบบ
ทำให้เม็ดเลือดแดงสะอาดขึ้นและแข็งแรงขึ้น ทำให้เม็ดเลือดนำพาสารอาหาร
และแร่ธาตุต่างๆ ไปหล่อเลี้ยง และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้โรคเสื่อมต่างๆ
ในร่างกายอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันคลอโรฟีลล์ที่ทางการแพทย์ให้การยอมรับ
ต้องมีความบริสุทธิ์เข้มข้นไม่น้อยกว่า 95%
(มาตรฐานขององค์การอาหารและยาสหรัฐ
(FDA) กำหนดไว้ต้องไม่น้อยกว่า 95%)
ที่สำคัญจะต้องเป็นคลอโรฟิลล์ชนิดละลายน้ำ (Water Soluble Chlorophyll) เท่านั้น จึงจะไม่มีผลข้างเคียงและไม่มีสารตกค้างในร่างกาย
ซึ่งในทางการแพทย์ได้ทำการรักษาให้กับผู้ป่วยมากมาย
อาทิ กรณีการใช้คลอโรฟิลล์ เพื่อรักษาผู้ป่วยระบบโรคทางเดินหายใจจำนวน 1,000 ราย,
กลุ่มทันตแพทย์ พบว่าคลอโรฟิลล์สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปากของผู้ป่วยกว่า
1,700 ราย
กรณีผลการใช้คลอโรฟิลล์ช่วยรักษาผู้ป่วยเป็นโรคโลหิตจาง
พบว่าผู้ป่วยไม่มีอาการขาดธาตุเหล็กและธาตุทองแดง หรือในโรงพยาบาลทหารได้มีการใช้คลอโรฟิลล์ทาแผล
ปรากฏว่ากลิ่นเหม็นเน่าของแผลลดลง และอาการอักเสบดีขึ้น จนกระทั่งหายไป เป็นต้น
แล้วคุณล่ะ
ลองดื่มคลอโรฟิลล์บ้างหรือยัง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น